เฮลซิงกิ Helsinki-Finland
เฮลซิงกิ (Helsinki)เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 560,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมตั้งเป็นเขต เมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ มีประชากรเกือบหนึ่งล้านคน และถ้านับเขตที่อยู่อาศัยในปริมณฑลด้วยจะมีประชากรมากกว่า 1.2 ล้านคน เฮลซิงฟอร์สเป็นชื่อเมืองดั้งเดิม และยังคงเป็นชื่อเมืองในภาษาสวีเดนในปัจจุบัน ในอดีตเป็นชื่อที่ใช้ในระดับนานาชาติด้วย
(ขอบคุณที่มา จาก http://www.worldtraveltrips.com/europe/finland/temppeliaukio-church/)
ฟินแลนด์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป เขตแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้จรดทะเลบอลติก ทางด้านใต้จรดอ่าวฟินแลนด์ ทางตะวันตกจรดอ่าวบอทเนีย ประเทศฟินแลนด์มีชายแดนติดกับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ และรัสเซีย สำหรับหมู่เกาะโอลันด์ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้นั้น อยู่ภายใต้การปกครองของฟินแลนด์ แต่เป็นเขตปกครองตนเอง เคยถูกรัสเซียยึดครองและเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุด คือ เฮลซิงกิ เมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ เอสโป วันตา ตัมเปเร โอวลุ และตุรกุ
ฟินแลนด์มีประชากร 5.52 ล้านคน (ข้อมูล ณ กลางปี พ.ศ. 2562) ประชากรส่วนมากอาศัยอยู่ในตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ และพูดภาษาฟินแลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มภาษาฟินนิกจากตระกูลภาษายูรัล และไม่มีความสัมพันธ์กับภาษาสแกนดิเนเวียแต่อย่างใด ประเทศฟินแลนด์เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 8 ของทวีปยุโรป และเป็นประเทศที่มีประชากรเบาบางที่สุดในสหภาพยุโรป ประเทศฟินแลนด์เป็นสาธารณรัฐในระบบรัฐสภาที่ประกอบด้วย 311 เทศบาล และ 1 เขตปกครองตนเอง คือ หมู่เกาะโอลันด์ มีประชากรมากกว่า 1.4 ล้านคนอาศัยอยู่ในปริมณฑลเกรเทอร์เฮลซิงกิ และคิดเป็น 1 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(ขอบคุณที่มา จาก https://th.wikipedia.org/wiki)
ขอบคุณที่มาจาก https://www.worldatlas.com/upload/e1/12/cf/fi-01.jpg
**1.อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument)**
//โดย Temppeliaukio Church นั้นเป็นศาสนสถานที่มีความน่าสนใจอย่างมากอีกเเห่งของฟินเเลนด์ โดยมันตั้งอยู่ในกรุงเฮลซิงกิ มีความสวยงามเเละเเปลกตาอย่างมากช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนโบสถ์เเห่งนี้อย่างมากเลยทีเดียว จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกเเห่งที่ใครมาเที่ยวเฮลซิงกิเเล้วไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมความสวยงามเเบบเเปลกๆ ของที่นี่กัน//
**โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ นั้นมีอีกชื่อว่า โบสถ์หิน หรือที่ชาวฟินเเลนด์มักจะนิยมเรียกว่า โบสถ์แห่งความรัก เพราะว่ามันเริ่มก่อสร้างในวันวาเลนไทน์ เเละใช้ใช้เวลาก่อสร้างเพียงเเค่หนึ่งปีเท่านั้นเเละเสร็จในวันที่ 14 กุมภาพันธ์อีกเช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นความจงใจของผู้สร้างอย่างชัดเจน ซึ่งที่ตั้งของโบสถ์เเห่งนี้เเต่เดิมนั้นเป็นเนินเขาหินเเกรนิตที่ตั้งอยู่ขวางเเละดูเกะกะอย่างมากจึงมีการดัดเเปลงพื้นที่เเห่งนี้เสียใหม่ให้เป็นศาสนสถานด้วยการระเบิดชั้นหินธรรมชาติออกไปเเล้วทำเป็นโพลงพร้อมกับสร้างโบสถ์ครอบเข้าไปอย่างสวยงามเเละเเปลกประหลาดด้วยการออกเเบบของสถาปนิกสองพี่น้องชาวฟินเเลนด์ที่ชื่อว่า Timo และ Tuomo Suomalainen ทำให้สถานที่เเห่งนี้กลางเป็นจุดเด่นของเมืองด้วยรูปเเบบภายนอกที่ทันสมัยอย่างมาก เเละภายในที่มีการตกเเต่งด้วยหินธรรมชาติงดงามอย่างมาก โดยทีช่องด้านบนนั้นจะทำเป็นระบายเพื่อรับเเสงจากภายนอก โดยหลังคาด้านบนนั้นมีการประดับด้วยลวดทองเเดงที่มีความหนากว่าหนึ่งนิ้ว โดยนำมาขดเป็นวงกลมที่ดูเเปลกตาอย่างมากเลยทีเดียว//
// Temppeliaukio Church นั้นได้รับความนิยมในหมู่หนุ่มสาวชาวฟินเเลนด์ที่จะมาจัดพิธีเเต่งงานกันที่โบสถ์เเห่งนี้เพราะชื่อเสียงเเละความหมายของโบสถ์ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างมาก เเถมมีความเชื่ออีกว่าหากมาจุดเทียนอธิฐานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรักเเล้วมักจะสมหวังในความรักทุกรายไป จึงมีหนุ่มสาวนชาวฟินเเลนด์มาจุดเที่ยวกันอยู่เสมอๆ เลยทีเดียวรวมทั้งบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รู้เรื่องราวก็มักจะมาจุดเทียนกันอีกด้วย//
**ประวัติ
ในปีพ.ศ. 2093 พระ
เจ้ากุสตาฟที่ 1 แห่งสวีเดน
ทรงก่อตั้งเมืองเฮลซิงกิขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้า
แข่งกับเมืองทาลลินน์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอ่าวฟินแลนด์
จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร เฮลซิงกิจึงตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำวันตา
ได้รับการปกป้องจากบรรดาเกาะเล็กๆทั้งหลาย ในช่วงแรกเฮลซิงกิไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
90 ปีต่อมา สมเด็จพระรา ชินีคริสตินา
ทรงดำริให้ย้ายเมืองไปทางใต้ 5 กิโลเมตร
ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบันของเมือง เฮลซิงกิได้รับสถานะเป็นเมืองสำคัญ
สามารถทำการค้าขายกับต่างประเทศได้
แต่ในเวลานี้สวีเดนได้ครอบครองทางใต้ของอ่าวฟินแลนด์แล้ว เฮลซิงกิจึงไม่มีความสำคัญมากนัก
และยังคงเป็นเมืองเล็กๆอยู่ ในปีพ.ศ. 2291 เริ่มมีการสร้างฐานทัพ
Suomenlinna บนหมู่เกาะบริเวณปากอ่าวของเฮลซิงกิ
การก่อสร้างนี้ส่งผลต่อเฮลซิงกิจากการที่คนงานนับพันคนเข้ามาทำให้การค้า
เจริญเติบโตขึ้น รวมถึงทหารประจำการที่มาพร้อมกับครอบครัวและวัฒนธรรมแบบชาวสวีเดนชั้นสูง
พ.ศ. 2351-52 เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและสวีเดน
ดินแดนฟินแลนด์ตกเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดนในฐานะราชรัฐปกครองตนเอง ฟินแลนด์
ชาวฟินแลนด์บางส่วนเริ่มสนับสนุนความคิดการตั้งเฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงของราช รัฐ
ความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากฝั่งรัสเซียเช่นกัน
เนื่องจากเฮลซิงกิอยู่ใกล้กับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมากกว่า
และมีอิทธิพลของสวีเดนน้อยกว่าตุรกุซึ่งเป็นเมืองหลวงเดิม ซาร์อเล็กซาน เดอร์ที่ 1 จึงตั้งเฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่ตุรกุในปีพ.ศ.
2355[6] จากการที่เฮลซิงกิถูกทำลายด้วยไฟในปี 2351 ทำให้ซาร์วางแผนที่จะสร้างเมืองขึ้นใหม่
ได้มีการแต่งตั้งวิศวกรชาวฟินแลนด์ให้ออกแบบเมืองใหม่
และเชิญสถาปนิกชาวเยอรมันมาร่วมงาน มีการสร้างอาคารใหม่จำนวนมาก
รวมถึงการย้ายมหาวิทยาลัยมาจากตุรกุด้วย
สถาปัตยกรรมที่สร้างใหม่นี้มีรูปแบบนีโอคลาสสิกตามแบบเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เฮลซิงกิได้กลายมาเป็นศูนย์กลางทางการปกครองและวัฒนธรรม ในช่วงสงครามกลาง
เมืองฟินแลนด์ พ.ศ. 2461 เฮลซิงกิถูกยึดโดยฝ่ายแดงในเดือนมกราคม
วุฒิสภาย้ายไปประจำการที่เมืองวาซา กองทัพฝ่ายขาว
ร่วมกับทหารเยอรมันสามารถยึดเฮลซิงกิกลับมาได้ในเดือนเมษายน
เฮลซิงกิได้รับความเสียหายไม่มากนัก ในช่วงสงครามฤดูหนาวและสงครามต่อเนื่อง
(ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) เฮลซิงกิถูกโจมตีทางอากาศจากสหภาพโซเวียต อย่างไรก็ตาม
เฮลซิงกิได้รับความเสียหายไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองสำคัญอื่นๆใน ยุโรป
เฮลซิงกิยังเป็นหนึ่งในสามเมืองหลวงของประเทศในทวีปยุโรปที่เข้าร่วมสงครามที่ไม่ถูกยึดครองโดยฝ่าย
ศัตรู (อีกสองเมืองคือลอนดอนและมอสโก)//
**4.มหาวิหารอุสเปนสกี้ (Uspenski Church)
อาสนวิหารอุสเพนสกี (ฟินแลนด์: Uspenskin katedraali, สวีเดน: Uspenskijkatedralen, เชิร์ชสลาโวนิก: Успенский собор, Uspenskij sobor) เป็นอาสนวิหารกรีกออร์โธดอกซ์หรืออีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ และเป็นอาสนวิหารหลักของคริสตจักรออร์โธดอกซ์แห่งฟินแลนด์ Theotokos (พระแม่มารี) ชื่อของมันมาจากคำสลาโวนิกคริสตจักรเก่า uspenie ซึ่งหมายถึงหอพัก เป็นโบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก
ภายในตัวเมืองเฮลซิงกิ สามารถเดินเล่นได้สะดวกเลยค่ะ มีการวางผังเมืองดี ทำให้เดินง่าย ในส่วนของถนนช้อปปิ้งนั้น ชื่อเดิมคือ Suurkatu ค่ะ ต่อมาในปี 1833 ได้เปลี่ยนเป็นใช้ชื่อของอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ของรัสเซีย เพื่อเป็นเกียรติหลังจากที่ท่านได้สิ้นพระชนม์ลง ชื่อว่าถนน Aleksanterinkatu หรือที่รู้จักเรียกขานในเฮลซิงกิว่าถนน Aleksi นั่นเองค่ะ